ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

Classic Guitar


Classical Guitar

   เพื่อนๆหลายคนคงจะเป็นคนที่ชอบเล่นดนตรี และเครื่องตนตรียอดฮิตหรืออาจจะเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกในชีวิตคงจะหนีไม่พ้นกีต้าร์ ซึ่งเป็นเครื่องคนตรียอดนิยมเล่นได้ทุกเพศทุกวัย แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่ากีต้าร์นั้นมีอยู่หลายแบบหลายประเภทแต่ละประเภทก็จะมีการเล่น เสียง หรือท่วงทำนองที่ไม่เหมือนกัน วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆมารู้จักกีต้าร์อีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นกีต้าร์ที่มีเสียงที่ไพเราะและรูปแบบในการเล่นที่ไม่เหมือนใคร ใช่แล้วครับมันคือ "กีต้าร์คลาสสิค"



   ประวัติกีต้าร์คลาสสิค

     จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์เชื่อกันว่า เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายใช้นิ้วดีดประเภทกีต้าร์ก่อกำเนินในโลกนี้มานานกว่า 5000 ปี โดยเริ่มนิยมใน


แถบเอเซียกลาง มีชื่อเรียกกันว่า ซิตาร่า (Sitara) เครื่องดนตรีที่มีรูปร่างคล้ายกีต้าร์ที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกค้นพบ มีอายุกว่า 3300 ปี เป็นหินแกะสลักผลงานของศิลปินอาณาจักรฮิตไตต์

คำว่ากีตาร์มาจากภาษาสเปนคำว่า guitarra ซึ่งมาจากภาษากรีกอีกทีคือคำว่า Kithara kithara จากหลายแหล่งที่มาทำให้คำว่ากีตาร์น่าจะมีรากศัพท์มาจากภาษาตระกูลอินโดยูโร เปียน guit- คล้ายกับภาษาสันสกฤต ที่แปลว่า ดนตรี และ -tar หมายถึง คอร์ด หรือ สาย คำว่า qitara เป็นภาษาอาราบิก ใช้เรียก Lute lute ส่วนคำว่า guitarra เกิดขึ้นเมื่อเครื่องดนตรีชนิดนี้ถูกนำมาที่ Iberia (หรือ Iberian Peninsular เป็นคาบสมุทรทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในทวีปยุโรป) โดยชาวมัวร์หรือแขกมัวร์ (Moors)

กีต้าร์ในปัจจุบันนี้สืบเชื้อสายมาจากเครื่องดนตรีโบราณของอาณาจักรโรมัน ที่เรียกว่า cithara ซึ่งชาวโรมันนำไปเผยแพร่ในอาณาจักรฮิสปาเนียหรือสเปนโบราณในช่วงตริสต์ศตวรรษที่ 1 จากนั้นมีการพัฒนารูปร่างและโครงสร้างจนเริ่มมีแบบแผนและชนิดต่างๆกัน ที่แพร่หลายโดยการนำเข้ามาในคาบสมุทรไอบีเรียนของแขกมัวร์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8 เรียกกันว่า อู๊ด (oud) ในช่วงเวลาเดียวกันทางฝั่งยุโรปก็มีเครื่องดนตรีที่เรียกว่า ลูท (Lute) ที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายเหมือนกัน และ Lute ยังเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมในชาวไวกิ้ง

ช่วงต้นตริสต์ศตวรรษที่ 13 เครื่องดนตรีประเภทกีต้าร์ 4 สายที่เป็นที่นิยม 2 ประเภทคือ คือ guitarra moresca (กีตาร่า มอ ริสกา) หรือกีต้าร์ของชาวมัวร์ ที่มีลำตัวกลม คอกว้าง และมีโพรงเสียงหลายช่อง และอีกชนิดหนึ่งคือเครื่องดนตรีของชาวสเปนที่เรียกว่า วิฮูเอล่า (vihuela) ซึ่งถือว่าเป็นบรรพบุรุษของกีต้าร์คลาสสิคในปัจจุบัน วิฮูเอล่า (vihuela) ของสเปนมีลักษณะใกล้เคียงกีต้าร์อคูสติกและกีต้ารคลาสสิคในปัจจุบันมาก เป็นเครื่องดนตรีที่มีการผสมผสานระหว่า อู๊ด(oud)ของชาวมัวร์ และ ลูท (Lute) ของชาวสเปน (ซึ่งผมคิดว่า ทั้ง oud และ lute นี่อาจจะมีความเกี่ยวพัน หรือเป็นชนิดเดียวกัน แต่ด้วยภาษาและการเดินทางในสมัยนั้นอาจจะทำให้การออกเสียงเพี้ยนไปบ้างในแต่ละที่)

คริสต์ศตวรรษที่ 15-17 มีการใช้เครื่องดนตรีประเภทกีต้าร์กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกโดยการนำไปเผยแพร่ของนักเดินเรือชาวไวกิ้ง เครื่องดนตรีที่มีลักษณะเหมือนกีต้าร์ในปัจจุบันเกิดขึ้นในสมัย เรอเนสซอง (ประมาณช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15) ในยุคนั้นมีทั้งชนิด 4 สาย และ 5 สาย สำหรับกีต้าร์ที่มี 6 สายเชื่อว่าถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยตระกูลช่างทำแมนโดลินชาวเมืองเนเปิล ประเทศอิตาลี่ ชื่อ แกตาโน วินาซเซีย (Gaetano Vinaccia)ซึ่งก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่า เป็นความจริงหรือไม่

พัฒนาการของกีต้าร์คลาสสิค เริ่มมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 จากพื้นฐานเครื่องดนตรีที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายในประเทศสเปน ที่เรียกกันว่า วิฮูเอล่า (vihuela) ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 เครื่องดนตรีประเภทกีต้าร์เริ่มมีโครงสร้างและการเล่นที่มีแบบแผนและ พัฒนาการจนกลายเป็นกีต้าร์คลาสสิคอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

กีต้าร์คลาสสิคที่ถือว่าเป็นต้นตำรับและคุณภาพดีที่สุดเป็นกีต้าร์จากประเทศสเปน (ดินแดน ที่ Lute และ vihuela เคยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย) และช่างทำกีต้าร์เรียกกันว่า Luthier  ซึ่งมาจากคำว่า Lute นั่นเอง กีต้าร์คลาสสิคมีคอใหญ่ ฟิงเกอร์บอร์กว้างกว่ากีต้าร์ชนิดอื่น สายทำด้วยไนล่อน หรือที่คนไทยชอบเรียกกันว่า "สายเอ็น" ซึ่งสมัยแรกนิยมใช้เอ็นสัตว์มาทำสาย กีต้าร์คลาสสิคมีลักษณะคล้ายกับกีต้ารฟลามิงโก้ แต่แตกต่างกันทั้งขนาด ระดับเสียง วัสดุที่ใช้สร้าง


ส่วนต่างๆของกีต้าร์คลาสสิค
1.ส่วนหัว (HEAD) เป็นไม้มีรูเจาะเป็นช่องยาว2ช่องในช่องยาวนี้ จะมีแกนสำหรับใส่กีตาร์ส่วนใหญ่เป็นพลาสติคอย่างดีหรือวัสดุจำพวก กระดูกและงาช้างมีปลายยื่นออกมาด้านหลังเป็นลูกบิด6อัน (หรือมากกว่า) เมื่อวางกีตาร์แนวนอนลูกบิดจะตั้งฉากกับพื้น
2.ส่วนคอ (NECK) กีตาร์คลาสสิคนั้นจะมีคอที่ใหญ่กว่ากีตาร์อื่นๆ ไม้ส่วนคอจะตรงและมีขนาดเท่ากันตั้งแต่ส่
บนสุดถึงล่างสุดของคอ จำนวนเฟร็ตถ้านับจากจุดต่อลำตัวจะมี 12 เฟร็ต บริเวณฟิงเกอร์บอร์ดมักจะไม่มีจุดบอกตำแหน่งเฟร็ต แต่อาจจะมีจุดบริเวณสันคอกีตาร์แทน
3.ลำตัว (BODY) เป็นส่วนที่ยึดติดกับคอกีตาร์ตั้งแต่เฟร็ตที่ 12 เข้ามาในกล่องเสียงมีลักษณะเรียบด้านหน้ามีรูกลมเป็นโพรงเสียง อยู่ต่อจากด้านล่างสุดของคอส่วนด้านล่างของโพรงเสียง จะมีบริดจ์ (bridse) ที่ยึดสายกีตาร์ไว้กับลำตัวด้านหน้
วน

การใส่สายกีต้าร์คลาสสิค


ท่านั่งและการใช้มือที่ถูกต้อง(Classic Guitar)


       ท่านั่งที่จะอธิบายต่อไปนี้สำหรับคนที่เล่นกีต้าร์คลาสสิคที่ถนัดขวา ถ้าคนถนัดซ้ายก็ทำตรงกันข้าม
       ประการแรกคือ หลังต้องตรง แต่ไม่ใช่นั่งหลังแข็งหรือเกร็ง นั่งบนเก้าอี้ที่สบาย กีต้าร์โฟล์ค จะวางกีต้าร์ไว้ที่ขาขวา แต่การนั่งเล่นกีต้าร์คลาสสิค จะแตกต่างจาก กีต้าร์โฟล์ค คือ ให้วาง กีต้าร์ ไว้ที่เข่าซ้าย มี 4 สิ่งที่ควรจำคือ
  ยกขาซ้ายให้สูง โดยวางไว้ที่ เก้าอี้พักขา
  สันของกีต้าร์ด้านบน ให้ติดที่บริเวณหน้าอก
  อย่าให้พุง ติดที่หลังกีต้าร์ เพราะจะทำให้เสียง ไม่ดังกังวาน

  Sound hole คือจุดที่ เสียงของ กีต้าร์จะออกไปทางนั้น อย่างให้หน้าของกีต้าร์ หงายหรือคว่ำเกินไป พยายามชี้ Sound hole ไปยังตำแหน่งของหูคนฟัง ที่ห่างจากเราไปประมาณ 6 ฟุต นั่นคือตำแหน่งที่ดีที่สุด

ไว้เล็บมือขวา ให้พอดีกับปลายนิ้ว คารตัดเล็บให้เฉียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ควนตัดตรง เพราะจะทำให้เกิดการลื่นไถล เมื่อเวลาเราดีด ส่วนเล็บมือซ้ายให้ตัดสั้น

     ครับผม...นี่ก็เป็นเรื่องราวบางส่วนของกีต้าร์คลาสสิคนะครับ สำหรับเพื่อนๆที่สนใจก็สามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง หรือเรียนกับสถาบันดนตรีต่างๆก็ได้ครับ ผมขอทื้งท้ายด้วยคลิปการบรรเลงก็ต้าร์คลาสสิคนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้าติดตามนะครับ ขอบคุณครับ!





http://www.oknation.net/blog/print.php?id=112587
board.postjung.com

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น